งงเลย! จอดรถยนต์หน้าบ้านตนเอง ถูกมนุษย์ป้าแจ้งจับ เพื่อนบ้านรุมเปิดโปงความประพฤติ

0
974

สาวงงหนัก จอดรถยนต์ หน้าบ้านตนเองแท้ๆถูกมนุษย์ป้า แจ้งตำรวจจับ ครั้งติด เพื่อนบ้านเปิดโปงพฤติกรรมอีก ปล่อยหมากัดคนในซอย เรื่องร้องเรียนยาวเป็นหางว่าว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 มี.ค.2566 จากกรณีที่หญิงสาวรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์ปะทะคารมกันกับเพื่อนบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน หลังจากมีปัญหาเรื่องการจอดรถและถูกเพื่อนบ้านนำราวตากผ้าตั้งตากแดดหน้าบ้าน จนเกิดการโต้เถียงกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดังกล่าวที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พบกับ น.ส.มัลลิกา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นผู้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ปะทะคารมไว้ กล่าวว่า ตนกับครอบครัวได้ย้ายมาอยู่อาศัยที่บ้านพักหลังนี้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่อยู่เกือบติดท้ายซอยถัดไปอีกหลัง โดยบ้านของคู่กรณีที่อยู่ติดกำแพงท้ายซอยได้ปลูกต้นไม้สร้างสวนหย่อมขึ้นเต็มพื้นที่บนถนนหน้าบ้านพักของเขาจนแทบไม่มีทางเข้าออก

น.ส.มัลลิกา กล่าวต่อว่า จึงต้องอาศัยมาเดินออกผ่านที่หน้าบ้านของตนเป็นประจำ แต่ตนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรด้วย เพราะได้ยินกิตติศัพท์ของเพื่อนบ้านรายนี้มาพอสมควรก่อนที่จะย้ายเข้ามาอยู่ แม้จะถูกค่อนแคะแอบต่อว่าเป็นประจำ รวมทั้งบางวันยังมาเดินถ่ายรูปรอบรถยนต์ของตนที่จอดอยู่หน้าบ้านด้วยน.ส.มัลลิกา กล่าวอีกว่า กระทั่งเมื่อประมาณวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากตนขับรถยนต์ออกไปทำธุระนอกบ้านแล้วกลับเข้ามา ก็พบว่าเพื่อนบ้านรายดังกล่าวได้นำราวตากเสื้อผ้ามาตั้งแขวนตากแดดเต็มหน้าบ้านของตน ทำให้ตนไม่สามารถนำรถเข้าจอดบนถนนหน้าบ้านได้ตามปกติ ตนจึงเดินไปเรียกให้เขามาขยับราวตากผ้าออกไป แต่กลับถูกเพื่อนบ้านรายนี้ต่อว่าด่าทอต่าง ๆ นานา แต่ตนก็ข่มใจไม่พยายามตอบโต้อะไรกลับไปน.ส.มัลลิกา กล่าวว่า จนเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนกับลูกสาวยืนคุยกับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอยู่นั้น รถของเพื่อนบ้านรายนี้ได้ขับเข้ามาสุดซอยแล้วจอดขวางหน้าบ้านของเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง ก่อนที่หญิงสูงวัยในรถจะเปิดประตูรถลงมาแล้วต่อว่าพวกตนที่ยืนคุยกันอยู่ว่าไม่มีสามัญสำนึก

น.ส.มัลลิกา กล่าวด้วยว่า จึงทำให้ลูกสาวตนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยทนไม่ไหว โต้เถียงกับหญิงสูงอายุคนดังกล่าวไปว่า ใครกันแน่ที่ไม่มีสามัญสำนึกยึดพื้นที่ถนนส่วนกลางไปปลูกต้นไม้จนเข้าออกบ้านตัวเองไม่ได้ต้องมาอาศัยออกที่หน้าคนอื่นยังไม่พอ ยังเอาราวตากเสื้อผ้ามาตั้งขวางหน้าบ้านคนอื่นอีก จากนั้นชายสูงอายุอีกคนได้เข้ามาต่อว่าตน ถนนเป็นของส่วนกลางไม่มีโฉนด ใครจะทำอะไรก็ได้ หากไม่พอใจก็ไปขึ้นศาลกัน จากนั้นชายสูงอายุเพื่อนบ้านคนดังกล่าวก็ถ่ายรูปรถยนต์ของตนแล้วหายเข้าบ้านไป

น.ส.มัลลิกา กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นไม่นาน จู่ ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสองคนขับรถจักรยานยนต์เข้ามาที่หน้าบ้านพักตน โดยบอกว่ามีคนโทรไปแจ้งความว่าบ้านตนจอดรถกีดขวางทางเข้าออกบ้านพักคนอื่น ตนจึงได้ชี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูว่า รถยนต์ของตนจอดอยู่บนถนนหน้าบ้านในเขตพื้นที่ของตน ไม่ได้จอดล้ำไปยังหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน เพราะต้นไม้และวัชพืชต่าง ๆ ที่อยู่ในกระถางต่างหากที่ปลูกรุกล้ำเข้ามาที่พื้นที่หน้าบ้านตนแล้วเขาใช้เป็นทางเดินเข้าออกผ่านหน้าบ้านตนแทน

น.ส.มัลลิกา กล่าวอีกว่า ทำให้ตนจอดรถชิดไปข้างหน้าเพื่อไม่ให้ท้ายรถยื่นไปล้ำหน้าบ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ถัดไป เขาจึงกล่าวหาว่าตนไปกลั่นแกล้งเขา ทั้ง ๆ ที่เขาสามารถขยับกระถางปลูกต้นไม้ทำทางเข้าออกได้อีกด้านหนึ่งแต่เขาก็ไม่ยอมเปิดทางนั้นเอง เลือกที่จะเดินผ่านเข้าออกหน้าบ้านตนแทน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเห็นจึงได้เรียกเขาออกมาคุยด้วยเพื่อไกล่เกลี่ยเจรจาแต่เขาไม่ยอม อ้างตัวว่าเป็นทนายเก่าเดี๋ยวไปจบในชั้นศาล จนเจ้าหน้าที่ตำรวจจนใจที่จะอธิบายแล้วเดินทางกลับไป

น.ส.มัลลิกา กล่าวว่า หลังจากนั้นเพื่อนบ้านทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชายเดินทางออกไปนอกบ้านได้ไม่นาน ก็มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดใหม่ขับเข้ามาที่หน้าบ้านตนอีก โดยบอกว่ามีคนแจ้งเหตุจอดรถกีดขวางเข้าไป จึงต้องมาดู ซึ่งตนก็ได้อธิบายกลับไปเหมือนที่ได้อธิบายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดแรก ต่อมาตนได้นำรายชื่อของเพื่อนบ้านในซอยที่ได้รับผลกระทบจากเพื่อนบ้านหลังนี้ ที่ยังมีพฤติกรรมเลี้ยงสุนัขแล้วปล่อยให้สุนัขไปไล่กัดคนในซอยโดยไม่ห้ามปราม

น.ส.มัลลิกา กล่าวต่อว่า รวมถึงวัชพืชต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ที่ขึ้นอยู่หน้าบ้านจนกิ่งไประกับสายไฟฟ้า เข้ายื่นร้องเรียนกับฝ่ายนิติของหมู่บ้านไปแล้ว แต่เรื่องก็เงียบไม่มีคำตอบคำชี้แจงหรือวิธีแก้ไขใด ๆ กลับมาให้ตนทราบเลย ลูกสาวตนจึงตัดสินใจโพสต์คลิปเพื่อขอความคิดเห็นจากโลกโซเซียลเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อนบ้านเจ้าปัญหาและหัวหมอรายนี้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อย ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบ จึงพบว่าเพื่อนบ้านรายนี้มีเรื่องถูกร้องเรียนเข้ามาแล้วหลายครั้ง ทั้งพฤติกรรมที่ยึดพื้นที่บนถนนส่วนกลางเป็นพื้นที่ส่วนตัว เรื่องเลี้ยงสุนัขที่ปล่อยให้หลุดไปไล่กัดผู้อื่นด้วย ซึ่งเรื่องนี้ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอไทรน้อยไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะติดในเรื่องกฎหมายที่หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงเป็นของฝ่ายนิติบุคคลของหมู่บ้านที่ปกครองดูแลกันเองอยู่ ไม่ได้ยกพื้นที่ให้ทางเทศบาล หรือ อบต.เป็นผู้ดูแลศูนย์ดำรงธรรมจะได้เร่งรัดให้ฝ่ายนิติบุคคลของหมู่บ้านแห่งนี้เร่งบังคับใช้กฎระเบียบของหมู่บ้านอย่างเคร่งครัดต่อไปกับเจ้าของบ้านรายนี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุกระทบกระทั่งร้องเรียนกันจนกลายเป็นเหตุบานปลายต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่