เถียงกันสนั่น แพรรี่ ปะทะ ทนายธรรมราช

0
213

เถียงกันสนั่น แพรรี่ ปะทะ ทนายธรรมราช จากกรณี พระชาตรี เหมพันธ์ เจ้าอาวาสวัดพุทธวิหาร วัดไทยแห่งเดียวในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ได้ไลฟ์สดในเฟซบุ๊ก

โดยมีบางช่วงได้กล่าวพาดพิงถึง แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร จนมีการตอกกลับอย่างเดือด ทำให้ทางด้าน ทนายธรรมราช ไปแจ้งความเอาผิด แพรรี่ ข้อหาดูหมิ่นพระชาตรี หรือคณะสงฆ์ทำให้คณะสงฆ์ได้รับความเสื่อมเสียเสียหาย จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดไปทั่วทั้งสังคมออนไลน์นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือแพรรี่ พร้อมด้วย อ.จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการอิสระด้านพุทธศาสนา และทนายธรรมราช ได้ออกมาพูดถึงกระแสดังกล่าว ผ่านรายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย

โดย ทนายธรรมราช เผยว่า เบื้องต้นที่ไปกล่าวโทษ เพราะมีกฎหมายบัญญัติว่าผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์ ซึ่งเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน

ซึ่งการกระทำของแพรรี่ ผมมองว่า อาจเป็นความผิดตามกฎหมายจึงนำไปร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยที่ไม่ได้รู้จักกับพระชาตรีมาก่อน ส่วนที่พระไปกล่าวถึงแพรรี่ เป็นความผิดส่วนตัว สามารถไปร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อพระได้เลย แต่การดำเนินรายการวันนี้ เป็นธรรมต่อพระชาตรีหรือไม่

ซึ่งถ้าเขาไม่มา คุณก็ไม่ควรไปพูดถึงเขา คุณก็พูดได้ มันเป็นสิทธิของคุณ แต่ถ้าเขาเสื่อมเสีย เสียหาย คุณก็อาจจะถูกดำเนินคดี แล้วคดีที่ร้องทุกข์ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ยังเดินหน้าต่อ ไม่ได้หยุด

ข้อหานี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นบุคคลใดไปกล่าวโทษ ประชาชนคนไทยเห็นพระสงฆ์ถูกกระทำ ก็นำพยานหลักฐานไปดำเนินการทางกฎหมายได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอหน่วยงานรัฐ

หลังจากนั้น แพรรี่ ได้ตอกกลับทันทีว่า เขาก็เชิญโฟนอินให้ออกรายการแล้วไงคะ เขาก็เชิญแล้ว ถ้ากล้าจริงก็ให้โฟนอิน ก็ไม่โฟน แล้วมาบอกว่าไม่เป็นธรรมอะไรคะ เขาเชิญนะคะ ไม่ใช่เขาไม่เชิญ ซึ่งดิฉันจะพูดค่ะ ดิฉันมีหลักฐานเยอะแยะเลย คดีก็รีบเดิน อย่าเดินช้านะคะ

ดิฉันมีข้อมูลเยอะมากเกี่ยวกับชาวบ้านตาดำๆ ไม่มีปากมีเสียง เขาถูกคนที่เรียกตัวเองว่าพระสงฆ์แบบที่ทนายบางคนกำลังยกหางหลอกลวง เช่น การกู้เงินเขาแล้วใช้ไม่หมด

กลุ่มนักศึกษาที่ถูกส่งรูปภาพอนาจาร อยากเห็นทนายบางคนที่อ้างว่ารักพุทธศานาออกมาปกป้องและจัดการอลัชชีพวกนี้ ไม่ใช่ไปโหนเห็บไรศาสนาพวกนี้ และจะส่งข้อมูลพวกนี้ให้ทนายที่ชื่อธรรมราชทำ เพราะอยากรู้ว่าจะเลือกเคสไหม

ดังนั้นคนพุทธทุกคนมีสิทธิที่จะติติง มีสิทธิวิจารณ์คณะสงฆ์ได้ พอๆ กับที่คณะสงฆ์เทศน์ฆราวาส นี่พูดในฐานะอยู่ในประเทศประชาธิปไตย มีสิทธิพูดได้ ก็รับผิดชอบของตัวเอง

ถ้าฟ้องมาก็ฟ้องกลับแค่นั้นเอง ซึ่งการที่พูดถึงพระ ก็เพราะว่าเป็นผู้เสียหายที่ถูกพระพาดพิง ก่อนที่จะมาถามว่าใช้สิทธิข้อไหนในการต่อว่าพระ ก็อยากจะถามว่าทนายกลับไปถามพระก่อนไหม ว่าใช้สิทธิข้อไหนมาด่าฉันก่อน

ยิ่งมีทนายเข้ามาแบบนี้ เลยยิ่งรู้สึกว่าเรื่องแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ เพราะว่าจะมีเคสแบบนี้เกิดขึ้นอีก เวลาพระทำอะไรแล้วทนายถือหาง ชาวพุทธก็ไม่กล้ามีปากมีเสียง แพรี่กล่าว

 

แหล่งที่มา : mumkhao

เรียบเรียงโดย : sunnyday24.com

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่