1.รู้สไตล์ของหัวหน้า
เพราะก่อนที่เราจะเข้าไปพูดคุย ก็ต้องรู้ก่อนว่าเจ้านายของเรามีสไตล์การทำงานแบบไหน
ชอบให้มีการพูดคุยหรือนำเสนอในลักษณะไหน และมักจะสะดวก ในการพูดคุยในเวลาใด
แต่ที่แน่ ๆ นั้นก่อนที่เราจะเข้าไปคุย ก็ต้องไม่ลืมที่จะตรวจสอบดูก่อนว่า เขาว่างอยู่ไหม
เพราะการเดินเข้าไปเคาะประตูทันทีโดยไม่ได้นัดหมาย มันจะทำให้หัวหน้าไม่มีความพร้อม
ทั้งยังทำให้เขาไม่ได้ให้คำปรึกษาที่ดีด้วย
2.วางแผน ก่อนที่จะพูดคุย
เพราะก่อนที่เราจะเข้าไปหาเจ้านาย นอกจากต้องมีวัตถุประสงค์ในการพูด
อย่างชัดเจนแล้ว เราต้องมั่นใจว่าเราจะทำให้หัวหน้านั้น เข้าใจในสิ่งที่เราพูดด้วย
เพราะว่า การพูดปากเปล่าอย่ างเดียวมันจะทำให้ไม่เห็นภาพพอ แล้วถ้าต้องนำเสนองาน
ที่ต้องอธิบายให้เห็นภาพ ให้เราลองทำการพรีเซนต์ในรูปแบบของ P o w e r p o i n t
เพื่อเจ้านายจะได้เข้าใจง่ายๆ ในสิ่งที่เราพูด
3.จุดประสงค์ ของการพูดในครั้งนี้
เพราะในกรณีที่เราต้องขอคำปรึกษา นำเสนองานกับหัวหน้าอยู่บ่อยครั้ง สิ่งที่เราต้องถาม
ตัวเองเป็นอย่ างแรก คือ เราต้องรู้ให้ได้ว่า เรากำลังต้องการอะไรจากหัวหน้า
อย ากจะบอกอะไรให้หัวหน้าได้รู้ เราต้องรู้จุดประสงค์ ว่าเราอย ากจะพูดอะไร
ต้องมีความชัดเจนเวลาพูดคุย ต้องเข้าใจว่าไม่มีใคร มีเวลาให้กับเราทั้งวัน
ยิ่งไม่สามารถจับใจความได้ ยิ่งจะทำให้เขาต้องเสี ยเวลากับเราไปโดยเปล่าประโยชน์ เมื่อต้องพูดคุย
กับหัวหน้า เราต้องรู้ก่อนว่า จุดประสงค์ของเรา คืออะไรและหัวใจสำคัญของการ
สื่อสา รในการทำงาน คือความชัดเจน ถ้าเราต้องการให้ผู้ฟังเข้าใจสิ่งที่เราพูด
ก็ต้องบอกให้เขารู้ว่าจุดประสงค์ของการสื่อสารของเราคืออะไร
และอีกอย่างคือ พูดให้สั้น กระชับ จะช่วยให้เกิดความเข้าใจในการสื่อสารได้ง่าย
4.ทำงานบนพื้นฐาน ของความไว้ใจ
เพราะการทำงานร่วมกันนั้นสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือ ความไว้วางใจที่มีให้กัน
หากเราต้องทำงานกับหัวหน้า ก็ต้องแสดงออกให้หัวหน้าได้รู้ว่า
มีความไว้ใจในหัวหน้า จึงมาขอคำปรึกษาหรือมาขอให้ช่วยหากเกิดปัญหา
ในการทำงาน อย่ าทำให้เขารู้สึกว่า เราทำงานกับเขาอย่ างจำใจ
เพราะไม่มีทางเลือกอื่น การทำงานที่มีความสุข มันคือการทำงานที่อยู่บนพื้น
ฐานของการไว้วางใจ เมื่อมันไม่สามารถไว้ใจกัน ประสิทธิภาพในการทำงานก็คงลดลง
