กรมอุตุฯ เผย พายุจ่อถล่มไทยอีก 3-4 ลูก

0
3133

กรมอุตุฯ เผย พายุจ่อถล่มไทยอีก 3-4 ลูก ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาประเทศไทยมีอากาศหนาว ซึ่งเป็นเรื่องแปลกอย่างมาก ต่อมาทางกรมอุตุนิยมวิทยา ก็ได้อธิบายปรากฏการณ์ดังกล่าวไปแล้ว ว่ามันคือ อิทธิพลของความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน

สิ่งที่เกิดขึ้น มันชวนให้เราคิดว่า ปีนี้เราจะเจออะไรอีก และถ้าเข้าสู่หน้าฝน   กูรูด้านการจัดการน้ำ กล่าวถึงปรากฏการณ์ ลานีญา (La Niña) ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ถือเป็นจังหวะดีที่เกิดหลังฤดูฝนของภาคกลาง ทำให้ไม่มีอะไรซ้ำเติมมาที่ภาคอีสาน และจากการพยากรณ์โดยใช้แบบจำลอง ของสหรัฐฯ

จากการตรวจวัดน้ำทะเลแปซิฟิก 200 จุด เพื่อดูปรากฏการณ์ต่างๆ ทั้ง เอลนีโญ และ ลานีญา พบว่า เวลานี้ยังอยู่ที่ปรากฏการณ์ ลานีญา หมายความว่า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-มกราคม ในปี 2564-2565 ยังถือว่ามีฝนมาก น้ำมาก และจากการอัปเดตข้อมูล ล่าสุด ยืนยันได้มากกว่า 50% ปีนี้ยังมีน้ำมากไปจนถึงเดือนสิงหาคม

ปรากฏการณ์ ลานีญา จะทำให้มีฝนตกมากกว่าปกติ และช่วงนี้พื้นที่ที่ได้รับผลคือ พื้นที่ภาคใต้ ตอนแรกคาดการณ์ว่าจะตกหนักในวันที่ 3-4 เมษายน แต่เกิดไม่ตก มาตกหนักในวันที่ 5 เมษายน โดยเฉพาะ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 587 มิลลิเมตร ถือว่าตกมากที่สุดในรอบปี ซึ่งปีก่อนตกเพียง 400 มิลลิเมตร ก็เกิดน้ำท่วมหนักแล้ว แต่ปีนี้กลับเผชิญที่หนักหน่วงกว่า ทำให้ชาวบ้านรับมือไม่ทัน

 ปีนี้เชื่อว่าอาจจะเจอพายุประมาณ 3-4 ลูก ในช่วง สิงหาคม-ตุลาคม ซึ่งถือเป็นเกณฑ์ปกติไม่ได้มากหรือน้อยไป แต่สิ่งจำเป็น คือ การจัดการน้ำ ต้องทำให้ดี ต้องบริหารน้ำ ตามสถานการณ์พายุที่เข้ามาตามฤดูกาล

สำหรับ ภาคเหนือ และภาคกลาง เวลานี้ยังไม่มีอะไรน่าห่วง เพราะอ่างเก็บน้ำยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกเยอะ ซึ่งหลังพฤษภาคมจะมีฝนตกเยอะ อาจจะรับน้ำได้เต็มๆ และเชื่อว่ากรมชลประทาน อาจจะปล่อยน้ำลงมาเยอะหน่อย ไม่จำเป็นต้องสำรองน้ำไว้ในช่วงต้นฤดูฝน

ส่วนที่ต้องระมัดระวัง คือ ภาคอีสานกับตะวันออก ปีที่แล้วภาคอีสาน เจอพายุเข้า เจอความกดอากาศต่ำฝนตกหนักในช่วงปลายฤดูฝน เจอน้ำท่วม น้ำเต็มอ่างเก็บน้ำ มีเพียงเขื่อนลำปาว เขื่อนเดียวที่ไม่เต็ม ขณะที่ ภาคตะวันออก จะคล้ายกับภาคอีสาน ดังนั้น การบริหารจัดการน้ำ ช่วงต้นฤดูฝน ก็ยังพอเก็บน้ำไว้ได้ แต่ ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ต้องบริหารจัดการน้ำให้ดี

 

แหล่งที่มา : siamnews

เรียบเรียงโดย : freelydays.com

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่