หนังคนละม้วน โบว์ อดีต ผจก. เปิ้ล ไอริณ ขอโต้ตอบกลับ หลังโดนคดีโกงเงินค่าตัว
กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตจับตามองต่อเนื่อง หลังจากที่ทางด้านนักร้องสาว เปิ้ล ไอริณ เดินทางไปแจ้งความ ปอเปี๊ยะ กาลเวลา ข้อหาสงสัยในการร่วมกันลักทรัพย์ และ โบว์ ผู้จัดการส่วนตัว ในข้อหาลักทรัพย์ พยายามเอาเปรียบเจ้าตัว
เพราะก่อนหน้านี้เคยทะเลาะเรื่องการเมือง เรื่องราวนี้ใหญ่โตมาก จนทางรายการถึงกับต้องงัดหลักฐานเพื่อความกระจ่าง ปรากฏว่า ซองเงินถูกเปิดออก โดย ผู้จัดการส่วนตัว!
ล่าสุด ทางด้าน โบว์ ได้ออกมาตั้งแถลงข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้เผยในมุมของตนเองว่า “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โบว์ได้หยิบเงินออกไปจากซองจริงๆ แต่ก่อนหน้านั้น โบว์ได้เจรจาเรื่องค่าตัวของเปิ้ล ไอริณ ไว้ในราคา 10,000 บาท
จากนั้นก็ได้เจรจากับทางทีมงานว่า ขอเพิ่มเงินค่าตัวของตนเอง เพราะมองว่าวันนั้นเป็นวันหยุด และการเดินทางไปถ่ายทำรายการก็ค่อนข้างไกล สุดท้ายทางรายการได้เพิ่มค่าตัวของ โบว์ เป็น 5,000 บาท จากนั้นตนเองก็ได้พูดคุยกับทาง เปิ้ล ไอริณ ว่าค่าตัวของ เปิ้ล ไอริณ นั้นเป็น 10,000 บาท ซึ่งทาง เปิ้ล ก็ตอบว่าโอเคในราคานี้ จากนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดคุยกันอีก
แต่ก็เกิดการสื่อสารคลาดเคลื่อนเกิดขึ้น เพราะทางทีมงานได้นำเงินส่วนของ โบว์ ไปรวมกับค่าตัวของ เปิ้ล ไอริณ จนเกิดเป็นเรื่องปัจจุบันขึ้นมา ที่ โบว์ ได้หยิบเงินในซอง โบว์ มองว่าเป็นส่วนต่างที่เราได้ขอไป ไม่เกี่ยวกับค่าตัวของ เปิ้ล ไอริณ
และหลังจากเสร็จงานเรียบร้อย ก็ได้เดินทางไปส่ง เปิ้ล ไอริณ ที่รถ และ เปิ้ล ไอริณ ก็ได้พูดว่าจะโอนเงินให้ 1,000 บาท แต่เราได้บอกว่าเราหยิบเงินส่วนแบ่งในซองไปแล้ว และการพูดคุยก็จบลง
แต่เมื่อกลับไปถึงบ้านก็ได้ทราบข่าวว่า เปิ้ล ไอริณ ได้ให้ข้อมูลกับรายการอื่นไปว่า เกิดอะไรขึ้นทำไมหน้าซองถึงเขียน หมื่นห้า ถึงได้แค่หมื่นเดียว? ซึ่งเราก็ได้ชี้แจงให้เขาทราบว่า เงินส่วนนี้เราได้ขอจากทางทีมงาน ก็เคลียร์กันไปเรียบร้อยแล้ว
แต่วันรุ่งขึ้นก็ตกเป็นข่าวตามที่ทุกคนได้ทราบ เราก็พยายามติดต่อไปหาทาง เปิ้ล แต่ไม่ได้มีการรับสาย ซึ่งตนเองก็ได้แจ้งไปตั้งสองรอบแล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องดึงรายการ ทีมงาน พิธีกร และผู้บริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้บุคคลเหล่านั้นได้รับความเสียหาย ทาง โบว์ เองก็ได้ติดต่อขอโทษอย่างเป็นทางการกับทางด้านคุณ ปอเปี๊ยะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และยืนยันว่า โบว์ ไม่ได้มีเจตนายักยอกทรัพย์แต่อย่างใด แต่มันเป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน เราไม่เอาเงินแค่นี้มาทำให้ชีวิตเราเสียหาย เราก็เข้าใจพี่เปิ้ล และขอโทษพี่เปิ้ลจากใจจริงต่อหน้าสื่อ เราก็ไม่อยากให้มันขึ้นโรงขึ้นศาล เป็นคดีความ แต่ในเมื่อมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เราก็ต้องปกป้องตัวเอง ว่าเราไม่ได้ลักขโมย อยากวิงวอนสังคมที่เห็นภาพ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตรงนั้น”
ส่วนทางด้านทนายความก็ได้เผยว่า “การลักทรัพย์ ต้องเป็นการเข้าไปฉกหรือเข้าไปเอาในเคหสถาน และเป็นข้อหาที่ค่อนข้างรุนแรง แต่เมื่อได้ทำการสอบก็พบว่า โบว์ ไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้น เมื่อดูพฤติการณ์และการกระทำของ โบว์ พบว่ามันเป็นการกระทำโดยการเอาส่วนแบ่งของตน โดยสุจริตใจ
ในกรณีนี้พฤติการณ์ของ โบว์ ที่ โบว์ ทำทั้งหมดนั้น มันไม่ใช่สถานที่ลึกลับ มันมีกล้องวงจรปิดเห็นชัดเจน การเอามาก็ทำด้วยการสุจริตว่าตนเองมีสิทธิ์ที่จะได้ในเงินส่วนนั้น ซึ่งเป็นประเพณีปฏิบัติของผู้ประสานงาน
ในส่วนของคดีความที่ทางฝั่งนั้นได้แจ้งไป ถ้าหากมีการพูดคุยตกลงกัน ตำรวจอาจจะไม่รับเป็นคดีความร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะตกลงกันได้ แต่ถ้าหากจะสู้คดีทนายก็จะให้สู้ในทำนองที่ว่า เขากระทำไปโดยสุจริตใจ ว่าเขามีสิทธิ์ที่จะได้เงินส่วนนี้ ซึ่งทนายดูแล้วเขาไม่มีพฤติกรรมที่จะลักทรัพย์”.
ขอบคุณข่าวจาก thairath
