แป้ง อรจิรา เผยเหตุผลเตรียมพักงานวงการ พาลูกสาวย้ายไปอยู่ต่างประเทศ

0
268

แป้ง อรจิรา เผยเหตุผลเตรียมพักงานวงการ พาลูกสาวย้ายไปอยู่ต่างประเทศ

อยู่ในวงการมานานสำหรับนักแสดงสาว แป้ง อรจิรา ที่ล่าสุดออกมาเปิดบทบาทใหม่กับการเป็นคุณแม่ และบอกเลยว่าทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปมาก พร้อมพาลูกสาว น้องเลอา วัยขวบครึ่ง มาออกรายการครั้งแรก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31

พัฒนาการน้องเป็นยังไงบ้าง?

แป้ง : คุณหมอบอกว่าอยู่ตามเกณฑ์ เราไม่เคยมีลูก เราก็ไม่รู้ว่าตามเกณฑ์ของคนอื่นมันเป็นยังไง แต่เขาก็พูดตามอายุที่เขาจะพูด เขาไม่ได้เป็นเด็กงอแงที่จะร้องไห้ไม่มีเหตุผล

 

 

ทะเลาะกับสามีเรื่องการเลี้ยงลูกไหม?

แป้ง : มีบ้าง เพราะส่วนใหญ่เราเป็นคนใช้เวลากับลูก เขาจะออกไปทำงานนอกบ้าน พอกลับมาจะมีบ้างเห็นลูกไม่ทำอะไรอย่างนี้ ทำไมไม่สอน ทำไมไม่บอกให้ลูกทำแบบนี้ๆ

อย่างบ้านแป้งสามีเป็นคนสิงคโปร์ เขาใช้ภาษาจีนเป็นหลัก?

แป้ง : เขาใช้ภาษาอังกฤษ

แล้วสื่อสารยังไงกับลูกเพื่อไม่ให้สับสน?

แป้ง : เวลาแป้งคุยกับสามีแป้งจะพูดภาษาอังกฤษ แต่ถ้าแป้งคุยกับลูก แป้งจะพูดภาษาไทย ถ้าเขาคุยกับลูก เขาจะพูดภาษาอังกฤษ

เห็นว่าตอนนี้มีเสริม นอกจากภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ตอนนี้ให้ครูมาสอนภาษาจีน?

แป้ง : ตอนนี้ทุกวันพุธกับศุกร์ช่วงเช้าก็จะมีครูสอนภาษาจีนมาเล่น มาคุย

ไม่ค่อยได้ยินคนให้ลูกเรียนตั้งแต่ขวบนิดๆ เลย?

แป้ง : คือคุณสามีเป็นคนสิงคโปร์ พอ 6 ขวบต้องย้ายกลับไปเรียนที่สิงคโปร์ เพราะว่าการศึกษาที่สิงคโปร์ค่อนข้างแน่น ไปช้ากว่านั้นกลัวว่าเรียนไม่ทันแล้วจะเครียด ถ้าส่งไปตั้งแต่เด็ก อย่างน้อยมันทำความเครียดให้เป็นความธรรมดา แต่ถ้าเขาอยู่ชิลๆ ที่เมืองไทย แล้วไปเข้าโรงเรียนเครียดๆ เขาปรับตัวไม่ได้จะกลายเป็นเด็กเครียด ก็เลยคิดว่า พอ 6-7 ขวบจะย้ายให้ไปเรียนที่นู่น

 

 

ด้วยความที่มันหลากหลายภาษาเหลือเกิน น้องสับสนบ้างไหม?

แป้ง : คิดว่าถ้าเรายัดให้เขาตั้งแต่เด็กๆ แบบนี้คิดว่าเขาน่าจะรู้ว่ามันมีความหลากหลายบนโลกใบนี้

นอกจากเขาได้ภาษาจีนแล้ว คุณพ่อก็ได้ภาษาไทยด้วยในครูคนเดียวกัน?

แป้ง : ใช่ จริงๆ คุณพ่อเขาได้ภาษาไทยอยู่แล้ว แต่พอมาถึงที่บ้านเขาก็เลยถามครูคนที่สอนภาษาจีน ว่าสอนภาษาไทยได้หรือเปล่า ซึ่งครูก็สอนได้ ทุกวันนี้ครูมา คือเลอา 1 ชม. แม่ 1 ชม. พ่อ 1 ชม.

แป้งเรียนอะไร?

แป้ง : จีน เพราะเรากลัวว่าเดี๋ยวเขาคุยกับคุณพ่อแล้วเราไม่รู้ ก็เลยคิดว่าศึกษาไว้บ้าง บางทีลูกเรียน เราจะได้สอนเขาได้

ถ้าส่งลูกไปเรียนที่สิงคโปร์ตอน 6 ขวบ คุณแป้งไปด้วยไหม?

แป้ง : ไปค่ะ

แสดงว่าแพลนในอนาคตคือเตรียมย้ายจากเมืองไทยไปอยู่สิงคโปร์เลย?

แป้ง : อาจจะไม่ได้ยาว อาจจะย้ายไปช่วง 6-7 ปี ไฮสคูล แต่สิงคโปร์มันใกล้ บินกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้

 

 

ช่วงหนึ่งเราเรียนรู้ไปอยู่มาแล้ว?

แป้ง : ใช่ค่ะ สิงคโปร์สำหรับแป้ง แป้งรู้สึกว่ามันค่อนข้างเป๊ะ มันอาจจะเครียดนิดนึง คืออยู่ได้ แต่ถ้าอยู่ยาวๆ อาจจะขอไป-กลับ

ลูกไม่ติดพี่แป้งเลย มีช่วงหนึ่งไปต่างประเทศ แต่เราติดลูกมาก?

แป้ง : เราติดลูก เวลาเราไปเมืองนอกโทรหาลูกตลอด เวลาเขาเห็น เขาไม่สนใจ เขาจะเล่น

นอยด์ไหม?

แป้ง : สงสัยเราคงไปบ่อยจริงๆ คงต้องให้เวลากับเขาเยอะขึ้น

เห็นว่ามีอย่างหนึ่งที่ไม่ให้ลูกทำเลยคืองานในวงการบันเทิง?

แป้ง : คือไม่ใช่ไม่อยากให้เขาทำนะ มันมีช่วงเวลาของมัน แล้วก็พูดจริงๆ เราก็เข้าวงการเร็ว มันมีช่วงที่เราเสียนิสัยก็มี เราอยากให้เขารับรู้ถึงความเป็นคนธรรมดาก่อน การใช้ชีวิตหาเงินไม่ได้ง่ายๆ อยากให้เขามีความสามารถ ร้องเพลงได้ เต้นเป็น เพราะว่าแม่ชอบ แม่อยากดู แต่อยากให้เขาเอาเรื่องวิชาการเป็นหลักมากกว่า แต่ก็ไม่ได้กำหนด แต่ถ้าเลือกได้ อยากให้เขาใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา

แล้วถ้าวันนึงน้องบอกว่าอยากเป็น?

แป้ง : ก็ต้องดูก่อนว่าเขามีความสามารถทางด้านไหน ถ้าเขาเล่นละครเก่งก็ต้องเก่งจริงนะ หรือร้องเพลงได้ก็ต้องเพราะจริงนะ ไม่ได้เป็นแม่ที่แบบลูกร้องไม่ได้ แล้วบอกว่าร้องเพราะมากลูก ผลักดัน ต้องดูตามพื้นฐานความเป็นจริงว่ามันไปได้ไหม ถ้าลูกเราเก่ง เราก็ผลักดัน

แล้วคุณพ่อล่ะ?

แป้ง : เขาอยากให้เป็นหมอ ถ้าลูกเป็นหมอได้เขาจะแฮปปี้มาก

แล้วลึกๆ อยากให้ลูกเป็นอะไร?

แป้ง : เป็นอะไรก็ได้ อยากให้เขาเป็นเด็กมีความสุข.

 

 

ขอบคุณข่าวจาก thairath

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่